วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2555
เศรษฐกิจและสังคมของกัมพูชา
วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2555
Northern Lights: The Aurora Borealis visible over northern England
(25 ม.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ว่าพายุสุริยะที่มีขนาดใหญ่ที่ในรอบ 7 ปี หลังจากเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ บนผิวดวงอาทิตย์ตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งจะแผ่รัศมีส่งผลกระทบต่อขั้วแม่เหล็กบนโลก ทำให้เกิดแสงออโรราขั้นในหลายพื้นที่ ขณะที่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย เกี่ยวกับระบบการสื่อสารโทรคมนาคม
รายงานระบุว่า พายุสุริยะซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005 เป็นต้นมา กำลังเคลื่อนตัวพุ่งเข้าโจมตีชั้นบรรยากาศของโลกอยู่ในขณะนี้ ทำให้เกิดปรากฏการณ์แสงเหนือ หรือ "ออโรรา" ขึ้นหลายจุดในซีกโลกเหนือ โดยมีผู้พบเห็นปรากฏการณ์ดังกล่าวบนท้องฟ้า ทั้งที่ประเทศแคนาดา สหรัฐอเมริกา สกอตแลนด์ และอีกหลายส่วนของสหราชอาณาจักร แต่ที่สร้างความฮือฮาที่สุดก็คือที่นอร์เวย์ หลังมีผู้พบเห็นแสงเหนือ รูปร่างคล้ายกับนกฟีนิกซ์กำลังโบยบิน โดยคาดว่าจะสามารถเห็นได้ต่อไปอีกราว 2-3 วัน
อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายงานที่ระบุว่า พายุสุริยะที่เดินทางมายังโลกด้วยความเร็วกว่า 93 ล้านไมล์ต่อชั่วโมงในครั้งนี้ ได้สร้างความเสียหายแก่ดาวเทียม ระบบนำร่องจีพีเอส รวมถึงระบบการสื่อสารโทรคมนาคมบนโลก แต่หลายฝ่ายยังคงเตือนให้มีการเฝ้าระวังอิทธิพลของพายุสุริยะลูกนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป อีกอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
ทั้งนี้องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ (นาซ่า) ระบุว่าการเคลื่อนตัวของพายุสุริยะมายังโลกในลักษณะเช่นนี้ จะยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ จนถึงปี ค.ศ. 2013 ทั้งนี้รังสีที่แผ่ออกมาจากพายุสุริยะ จะไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ แต่อาจส่งผลรบกวนต่อการทำงานของดาวเทียมสื่อสาร และระบบการสื่อสารอื่นๆ ซึ่งแต่ละสถานที่ที่ได้รับผลกระทบจะแตกต่างกันออกไป
วันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2555
ขาวสวย ด้วย "อาร์บูติน"
วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2555
POMPEII อาณาจักรมัจจุราชกลืน
แต่แล้วในปี ค.ศ.79 ภูเขาไฟวีซูเวียส (VESUVIUS)
ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมือง ได้ระเบิดพ่นลาวาอันร้อนแรง
รวมทั้งไอก๊าซพิษ และขี้เถ้าลงมาถล่มท่วมทับปอมเปอี
ฝังร่างชาวเมืองนับพันคนไว้ทั้งเป็น เป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ที่มาเยือนโดยไม่รู้ตัว
สาเหตุการระเบิดมหากาฬของวีซูเวียส เกิดจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก โดยเปลือกโลกแอฟริกาทางตอนใต้ ได้เคลื่อนขึ้นมาทางเหนือและชนกับเปลือกโลกยูเรเชียน (ยุโรปกับเอเชีย) เมื่อแผ่นหินบดอัดกัน บางส่วนก็จมลงสู่เบื้องล่าง ลึกลงไป...ลึกลงไปสู่ใจกลางโลกที่ยังร้อนจัด จนกระทั่งหลอมละลายกลายเป็นลาวาที่เบากว่า แล้วก็พุ่งขึ้นมายังปากปล่อง ก่อความพินาศไปทุกสารทิศ ปอมเปอีที่รุ่งเรืองมายาวนานกว่า 800 ปี ต้องจมหายไปภายใต้ขี้เถ้าที่ตกลงมาทับถมสูงถึง 10 เมตร ภายในชั่วเวลา 2 วัน รายละเอียดของการระเบิดและความพินาศครั้งนี้ ได้มีผู้ที่เห็นเหตุการณ์คือ ไพลนีน้อย (PLINY THE YOUNGER) เขาได้บันทึกไว้และเชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านคงได้เคยผ่านตาแล้ว จึงขอข้ามไปถึงเรื่องราวการขุดค้นเมืองนี้ในกาลต่อมา ซึ่งได้พบกับสิ่งที่น่ารู้น่าสนใจหลายประการ ยิ่งกว่าการขุดค้นเมืองโบราณใดๆ ของโลก
"ความจริงแล้ว การขุดค้นปอมเปอีมีขึ้นหลัง จากเมืองถูกภูเขาไฟถล่มไม่กี่วัน"
โดย......พลเมืองปอมเปอีเอง
นั่นคือผู้ที่หนีเอาชีพรอดไปได้ ได้หวนกลับคืนมาเพื่อสำรวจ ตรวจดูทรัพย์สมบัติของตน แต่อะไรจะเหลือให้เห็นเล่า ไม่ว่า ถนน วัดวาอาราม โรงละคร ตลอดจนที่อยู่ อาศัยทั้งหมด ล้วนจมอยู่ใต้ขี้เถ้าหนา 10 เมตรดังกล่าว บางคนพยายามขุดอุโมงค์ทะลุขี้เถ้า ที่ทับถมเพื่อเข้าไปสู่บ้านของตน เพราะอีตอนรีบหนีอย่างฉุกละหุกนั้น ได้ทิ้งข้าวของมีค่าไว้มากมาย แต่ความยากลำบากในการขุดค้นทำให้พวกเขาต้องท้อถอยยอมแพ้ หากทว่าด้วยความไม่อยากอพยพไปอยู่ที่อื่น
พวกเขาจึงใช้แผ่นดินที่อุดมด้วยปุ๋ยขี้เถ้านั้นทำฟาร์มขนาดใหญ่โต หรือทำไร่องุ่นเสียเลย พอหลายชั่วอายุคนผ่านไป คราวนี้ทุกคนจึงลืมสนิทจริงๆ ว่าพื้นดินเบื้องล่างนั้นเดิมเคย
เป็นเมืองอันรุ่งเรืองมาก่อน
"1600 ผ่านไป"
กาลเวลาล่วงเลยมากว่า 1,600 ปี คือใน ค.ศ. 1754 ชาวไร่คนหนึ่งได้ขุดหลุมในที่ดินของตน แล้วพบรูปสลักหินอ่อนหลายชิ้น การค้นพบนี้ทำให้ ชาร์ลส์ที่ 3 กษัตริย์แห่งเนเปิลส์สนพระทัย เพราะพระองค์โปรดการตกแต่งวังด้วยรูปประติมากรรมสไตล์โรมัน จึงมีบัญชาให้ขุดหาต่อไปในแถบ
บริเวณวีซูเวียส
และในช่วงเวลาเดียวกันนั้น นักโบราณคดีบางคนก็ได้เดินทางมาศึกษาค้นคว้าในปอมเปอี แรกนั้น พวกเขาคิดว่าสิ่งที่ค้นพบ เป็นเพียงซากอาคารโบราณธรรมดา แต่แล้วใน ค.ศ. 1763 ก็ได้พบจารึกแผ่นหนึ่ง ซึ่งระบุว่าอาคารที่ฝังจมอยู่นั้น ที่แท้เป็นส่วนหนึ่งของปอมเปอี นครที่หายสาบสูญไปช้านาน จากนั้นจึงได้มีการขุดค้นกันขนานใหญ่ ตลอดมาจนถึงเดี๋ยวนี้
"สิ่งซึ่งถือกันว่าน่าสนใจที่สุดจากการค้นพบ"
ก็คือซากมนุษย์ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นชาวนครปอมเปอี โดยใน ค.ศ. 1860 เป็นต้นมา กุยเซปเป้ ฟิโอเรลลิ นักโบราณคดีอิตาเลียนได้นำเอาวิธีจำลองร่างต่างๆ ด้วยการใช้ปูนปลาสเตอร์เหลวเทลงไปในโพรงดินที่ว่างเปล่า ซึ่งคาดว่าเป็นร่างมนุษย์ที่ถูกฝัง แต่วันเวลาที่ผ่านไป ทำให้เนื้อหนังสูญสลายไปหมด เหลือเพียงกระดูก และโพรงอากาศที่มีลักษณะมนุษย์ในอิริยาบถต่างๆ ทั้งนี้เนื่องจากเถ้าภูเขาไฟนั้นอัดแน่นจนคงรูปโพรงอยู่ได้นั่นเอง สิ่งที่ได้ออกมานั้นน่าอัศจรรย์ใจยิ่ง เพราะเมื่อปูนปลาสเตอร์แห้ง แกะออกมาแล้วปัดเป่าเอาขี้ดินกับเศษใบไม้ใบหญ้าที่ติดอยู่ออกไป
สิ่งที่เห็นก็คือรูปร่างของมนุษย์ "ในสภาพเกือบสมบูรณ์ที่สุด" นอกจากนี้ สิ่งของสมบัติที่พบอยู่ข้างกายของเขานั้น ก็ยังช่วยบอกฐานะของแต่ละร่างด้วย เช่น โครงกระดูกที่มีตุ้มหู หรือสร้อยทองคำ ก็ย่อมชี้ชัดว่าเขาผู้นั้นอยู่ในตระกูลมั่งคั่ง ส่วนทาสนั้นก็ง่ายที่จะระบุ โดยเห็นได้จากโซ่ที่ล่ามข้อมือไว้นั่นเอง ในยามที่รู้ว่าภัยมาถึงตัว ชาวปอมเปอีทุกคนก็จะฉวย คว้าเอาสิ่งมีค่าที่สุดของตนติดตัวไปด้วย บางซากถึงกับมีลูกกุญแจบ้านอยู่ในมือ
"ซากที่พบยังได้บอกอีกว่าในชั่วโมง แห่งวิกฤตินั้นพวกเขากำลังทำอะไร และตายอย่างไร"
หลายคนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน เนื่องจากเมื่อภูเขาไฟระเบิด และพ่นเถ้าถ่านโปรยปราย ลงมาราวห่าฝนนั้น พวกเขาคิดว่า การหลบอยู่ภายในบ้านจะปลอดภัยที่สุด แต่ เป็นความคิดที่ผิด เพราะขี้เถ้านั้นมีปริมาณมหาศาล ท่วมคลุมเมืองถึง 10 เมตร เมื่อทับถมอยู่บนหลังคา อะไรจะทนทานอยู่ได้ หลังคาจึงหักพังลงมาทับพวกเขาเหล่านั้น
เสียชีวิต
วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2555
ภัยธรรมชาติ
ตัวอย่างเช่น การเกิดภูเขาไฟระเบิดในไอส์แลนด์ โดยไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดอย่างกระทันหันและเมื่อเกิดขึ้นแล้วทำให้สนามบินซูริคปิด งดเที่ยวบินเข้า-ออกโดยไม่มีกำหนด เช่นเดียวกับสนามบินอื่นๆ ในยุโรป เช่นอังกฤษ สกอตแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมัน ออสเตรีย เดนมาร์ก เบลเยี่ยม สวีเดน ฯลฯ เหตุจากภูเขาไฟใต้ธารน้ำแข็งไอย์ยาฟยัลลาโยกูล (Eyjafjallajokull) ตอนใต้ของเกาะไอซ์แลนด์ระเบิดปะทุขึ้นฟ้าสูงถึง 8 กิโลเมตร ฝุ่นขี้เถ้าลอยสูงกว่า 6,000 เมตร และฟุ้งกระจายไปทั่วประเทศและหลายประเทศในยุโรปตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มควันและเถ้าละอองปลิวฟุ้งขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อให้เกิดอันตรายกับเครื่องยนต์ไอพ่นของเครื่องบินโดยสาร ดังนั้นหลายประเทศในทวีปยุโรปจึงต้องประกาศปิดน่านฟ้า ห้ามเครื่องบินขึ้นลงตามสนามบินในประเทศต่าง ๆ ส่งผลให้ผู้โดยสารตกค้างเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้โดยสารที่จะเดินทางไปประเทศต่าง ๆ ในอีก 6 ทวีป นับเป็นผลกระทบต่อการสัญจรทางอากาศครั้งใหญ่สุด นับตั้งแต่เหตุวินาศกรรมปี 2544 เป็นต้นมา เที่ยวบินในภูมิภาคยุโรปต้องยกเลิกเที่ยวบินเฉพาะเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รวมแล้วประมาณ 17,000 เที่ยวบิน
การปะทุของภูเขาไฟในไอส์แลนด์ครั้งนี้ เกิดห่างจากเมืองเรยคยาวิกไปทางตะวันออกราว 120 กม.ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบไม่ถึงหนึ่งเดือนจากวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังเคยสงบเงียบมาเกือบ 200 ปี ซึ่งกลุ่มนักวิทยาศาสตร์มองว่ารุนแรงกว่าครั้งแรกถึง 10-20 เท่า ลาวาที่ปะทุทำให้ธารน้ำแข็งละลายและคาดว่าจะเกิดสภาวะเสี่ยงอุทกภัยเป็นบริเวณกว้าง
ดังที่ได้เห็นภาพและข้อมูลข่าวสารที่ฉันได้กล่าวไปทั้งหมดนี้ทำให้เราตระหนักได้ว่าเราทุกคนควรที่จะไม่ประมาทแล้วทำใจเตรียมพร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้น โดยไม่รู้ว่าเราจะประสบกับภัยธรรมชาตินี้เมื่อใดซึ่งปัจจุบันเรามักจะได้รับรู้ข่าวจากประเทศต่างๆที่เกิดภัยธรรมชาติอยู่บ่อยครั้ง
โลกแปรปรวน ! ทอร์นาโดถล่มเมือง " รัสเซีย" เป็นครั้งแรก ประชาชนแตกตื่น
ภัยธรรมชาติ
การประชุมโลกร้อน เล็งหาแหล่งพลังงานสะอาดเพื่อใช้ในการพัฒนาประเทศ ชี้พลังงานถ่านหินทำลายสิ่งแวดล้อม แต่ต้องดูตัวอย่างหายนะใหญ่เหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ของญี่ปุ่นระเบิด...
เมื่อ 1 ธ.ค. การประชุมภาวะโลกร้อนของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่เมืองเดอร์บัน ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งจะมีจนถึงวันที่ 9 ธ.ค.นั้น ร่วมกันหาแหล่งพลังงานสะอาดเพื่อใช้ในการพัฒนาประเทศ เพราะพลังงานถ่านหินปล่อยก๊าซคาร์บอนทำลายสิ่งแวดล้อม แต่ก็ต้องดูตัวอย่างหายนะครั้งใหญ่จากเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ของญี่ปุ่น ระเบิดจนรังสีรั่วไหล กระนั้น นายเอช. โฮลเกอร์ ร็อกเนอร์
ประธานด้านศึกษาค้นคว้าทางเศรษฐกิจและการวางแผนของสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (ไอเออีเอ) เผยว่า พลังงานทดแทนยังไม่เหมาะกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่แข่งกันเติบโต ซึ่งไอเออีเอคาดว่าภายในปี 2573 จะมีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 90 แห่ง จากปัจจุบัน 432 แห่งทั่วโลก
ขณะเดียวกัน บริษัทเมเปิลครอฟต์ ซึ่งเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์เสี่ยงภัยธรรมชาติ ตั้งสำนักงานในอังกฤษ เผยว่า ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศโลกกว่าครึ่งหนึ่งมาจาก 5 ประเทศอันดับต้นๆ ได้แก่ จีน สหรัฐฯ อินเดีย รัสเซีย และญี่ปุ่น ส่วนบราซิล เยอรมนี แคนาดา เม็กซิโก และอิหร่าน ก่อมลภาวะทางอากาศน้อยกว่า ทั้งนี้ จีนปล่อยทั้งก๊าซคาร์บอน ก๊าซมีเทน และไนเตรต ออกไซด์ ที่มาจากการเผาไหม้ถ่านหิน คิดเป็นปริมาณ 9,441 เมกะตัน ส่วนอินเดียส่วนใหญ่ปล่อยก๊าซมีเทนซึ่งมาจากภาคเกษตรกรรม 2272.45 เมกะตัน
วันเดียวกัน เกิดกระแสลมแรงหอบความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม.กระหน่ำทั้งรัฐแคลิฟอร์เนีย และหลายพื้นที่ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ รวมเนวาดา, ยูทาห์, อริโซนา และนิวเม็กซิโก ทำให้กระแสไฟฟ้าดับ ต้นไม้หักโค่น การจราจรระส่ำ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง คาดยังคงรุนแรงถึงวันศุกร์ 2 ธ.ค.
วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2555
10 ดอกไม้ประหลาดของโลก
1. Rafflesia arnoldii หรือดอกบัวผุด เป็น กาฝากชนิดหนึ่ง อาศัยอยู่บนรากของพืชจำพวกเถาองุ่นป่า (Tetrastigma) ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า ย่านไก่ต้ม มีลักษณะเด่นที่ดอกซึ่งเป็นดอกเดียวขึ้นจากพื้นดินมีขนาดใหญ่ มีกลิ่นเหม็นมาก ให้เห็นระหว่างฤดูฝน ที่โคนของดอกมีกลีบนำสีน้ำตาลอมเหลืองเรียงสลับซับซ้อนกันอยู่มาก ภายในดอกจะมีแผ่นแบนคล้ายจาน ด้านบนมีปุ่มคล้ายหนามแหลมจานนี้จะซ้อนเกสรตัวผู้และรังไข่ไว้ด้านล่าง ดอกจะบานอยู่ได้เพียง 4-5 วันเท่านั้น หลังจากนั้นก็จะค่อยๆ ดำเน่าไป 2. Titan Arum ดอกซากศพ หรือดอกบุกยักษ์ ดอกไม้ ที่ใหญ่ที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง เป็นพืชในเขตป่าร้อนชื้น ในพืชตระกูล "บัวผุด" (Rafflesia) เป็นดอกไม้เดี่ยวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอาณาจักรพืช พบขึ้นอยู่บนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ลำพังตัวช่อดอกแทงยอดตั้งขึ้นไปกว่า 3 เมตร จึงพืชสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องตัวเองจากสัตว์บางชนิด ขณะเดียวกัน กลิ่นน่าสะอิดสะเอียนที่หึ่งไปทั่ว กลับเย้ายวนแมลงบางชนิดให้มาดูดน้ำหวาน และผสมเกสรให้มัน กล่าวกันว่ากลิ่นของดอก Titan Arum คล้ายกับเนื้อเน่าสำหรับคน แต่กลับเป็นกลิ่นหอมยั่วน้ำลายแมลงเต่าที่ชอบกินของเน่าและแมลงวันให้มาช่วย ผสมเกสร กลีบดอกสีแดงเข้มยังช่วยลวงตาให้สัตว์นึกว่าเป็นก้อนเนื้อขนาดใหญ่น่าตอม 3. Hydnora africana พืช พื้นเมืองไปภาคใต้ แอฟริกา พืชเจริญเติบโตใต้ดินยกเว้นดอกไม้อ้วนที่ปรากฏบนพื้นและส่งเสียงของกลิ่น อุจจาระ เพื่อดึงดูดธรรมชาติ ผสมเกสร , ด้วงมูลสัตว์ และ ซากสัตว์ด้วง ดอกไม้ทำหน้าที่เป็นกับดักสำหรับระยะเวลาสั้น ๆ ยึดด้วงที่ใส่แล้วปล่อยพวกเขาเมื่อดอกไม้บานเต็มที่ 4. Helicodiceros muscivorus — Dead horse arum lily เป็นไม้ประดับ พื้นเมืองในภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียน มีกลิ่นเหมือนเนื้อเน่าเหม็นหึ่ง, ดึงดูดแมลง ให้มาผสมเกสร ลิ ลลี่งูเห่าเป็นพืชกินแมลงกลุ่มเดียวกับซาราซีเนียและ Heliamphora มีชื่อเสียงในแง่ของความแปลกประหลาด น่าพิศวงและสวยงามเป็นอย่างยิ่ง ยอดโดมเป็นเนื้อเยื่อใสคล้ายพลาสติก แสงลอดผ่านได้ ใช้กลิ่นหอมของน้ำหวาน ที่มันผลิตขึ้นบริเวณปากทางเข้า เป็นตัวหลอกล่อให้แมลงเดินเข้าไปยังกับดักและตกลงไปตายในที่สุด และเจ้าลิลลี่งูเห่าก็ทำได้แยบยลมาก 6. Heliamphora เป็น พืชที่มีเหมือกเหนียวสำหรับดักแมลง กลไกของดอกจะมีซอกซับซ้อนที่ทำให้แน่ใจว่าไม่สามารถมีเหยื่อเล็ดรอดไปได้ และเหยื่อจะถูกละลายด้วยน้ำเมือกที่เป็นกรด 7. Drosera หรือ หยาดน้ำค้าง หยาด น้ำค้างเป็นพืชกินสัตว์สกุลใหญ่สกุลหนึ่ง มีอยู่ประมาณ 170 ชนิด เป็นสมาชิกในวงศ์หญ้าน้ำค้าง ล่อ, จับ และย่อยแมลงด้วยต่อมเมือกของมันที่ปกคลุมอยู่ที่ผิวใบ แมลงจะใช้เป็นสารเสริมทดแทนสารอาหารที่ขาดไปจากดินที่ต้นหยาดน้ำค้างขึ้น อยู่ มีหลากหลายชนิด ต่างกันทั้งขนาดและรูปแบบ สามารถพบได้แทบจะในทุกทวีป 8. Dionaea/Venus Flytrap หรือ กาบหอยแครง กาบ หอยแครง (อังกฤษ: Venus Flytrap) เป็นพืชกินสัตว์ที่ดักจับและย่อยกินเหยื่อที่จับได้ ซึ่งส่วนมากเป็นแมลงและแมง กาบหอยแครงมีโครงสร้างกับดักคล้ายคล้ายบานพับแบ่งออกเป็น 2 กลีบ อยู่ที่ปลายใบของแต่ละใบ และมีขนกระตุ้นบางๆบนพื้นผิวด้านในกับดัก เมื่อแมลงมาสัมผัสขนกระตุ้นสองครั้ง กับดักจะงับเข้าหากัน การที่ต้องการสิ่งกระตุ้นที่ซับซ้อนนี้ก็เพื่อป้องกันการสูญเสียพลังงานไป กับการดักจับสิ่งอื่นที่ไม่ใช่อาหาร 9. Nepenthes หรือ หม้อข้าวหม้อแกงลิงหม้อ (Pitcher) ของต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง คือเครื่องมือของนายพราน – กับดักสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก – ที่พืชสกุลนี้ส่วนใหญ่ (แต่ไม่ทุกต้น) มีไว้เพื่อหาอาหารที่ขาดแคลนในแหล่งดิน มันหลอกล่อเหยื่อให้เดินเข้ากับดักโดยอาศัยกลิ่นเลียนแบบกลิ่นอาหารตาม ธรรมชาติของเหยื่อ อาจเป็นกลิ่นน้ำหวาน กลิ่นเนื้อสัตว์ กลิ่นแมลงเพศเมีย ฯลฯ หรือยั่วยวนเหยื่อด้วยสีสัน หรือน้ำหวาน หม้อข้าวหม้อแกงลิง หม้อข้าวหม้อแกงแกงลิงก็มีแบล็คไลท์เพื่อล่อแมลงกลางคืน ด้านในและใต้ส่วนที่งุ้มโค้งของปากหม้อ (peristome) ส่วนใหญ่เป็นแหล่งผลิตน้ำหวานปริมาณ 10.Byblisเป็น พืชที่เล็กที่สุดในตะกูลต้นไม้กินแมลง ใบผิวของขนหนาแน่นด้วยต่อมขับ เมือก สารจากปลายของเกสร ดึงดูดแมลงเล็กๆให้มาติดกับ ซึ่งเมื่อสัมผัสหลั่งเหนียว ก็จะไม่มีความแข็งแรงพอที่จะหลบหนี แมลงหรือเหยื่อก็จะเสียชีวิตด้วยความอ่อนเพลียทำให้หายใจไม่ออก เมื่อเมือกปกคลุมและอุดตันเส้นทางหายใจ |
วันจันทร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2555
Cambodia "
ลักษณะภูมิประเทศ
ที่ตั้ง : กัมพูชาตั้งอยู่กลางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทิศเหนือติดกับประเทศไทย (จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษสุรินทร์และบุรีรัมย์) และลาว (แขวง อัตตะปืและจำปาสัก)
ทิศตะวันออกติดเวียดนาม (จังหวัดกอนทูมเปลกู ซาลาย ดั๊กลั๊ก ส่องแบ๋ เตยนินลองอาน ด่งท๊าบ อันซาง และเกียงซาง)
ทิศตะวันตกติดประเทศไทย (จังหวัดสระแก้ว จันทบุรี และตราด)
ทิศใต้ติดอ่าวไทย
ขนาด
กว้าง ๕๐๐ กิโลเมตร ยาว ๔๕๐ กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด ๑๘๑,๐๓๕ตารางกิโลเมตร หรือมีขนาดประมาณ ๑ ใน ๓ ของประเทศไทย เส้นเขตแดนโดยรอบประเทศยาวประมาณ ๒,๐๐๐ กิโลเมตรโดยมีเส้นเขตแดนติดต่อกับประเทศไทยยาว ๗๙๘ กิโลเมตร
แม่น้ำ/ทะเลสาบสำคัญ
(๑) แม่น้ำโขง ไหลจากลาวเข้าสู่ภาคเหนือของกัมพูชาแล้วไหลผ่านเข้าเขตเวียดนามมีความยาวในเขตกัมพูชารวม ๕๐๐ กิโลเมตร
(๒) แม่น้ำทะเลสาบ เชื่อมระหว่างแม่น้ำโขงกับทะเลสาบ ความยาว ๑๓๐กิโลเมตร
(๓) แม่น้ำบาสัก (Bassac) เชื่อมต่อกับแม่น้ำทะเลสาบที่หน้าพระราชวังกรุงพนมเปญ ความยาว ๘0กิโลเมตร
(๔) ทะเลสาบ (Tonle Sap) เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ ๓,๐๐๐ตารางกิโลเมตร
สภาพภูมิอากาศ
ร้อนชื้น มีฤดูฝนยาวนาน อุณหภูมิโดยเฉลี่ย ๒๐-๓๖องศาเซลเซียส
เมืองหลวง
ราชธานีพนมเปญ (Phnom Penh)
เขตการปกครอง
ตามกฤษฎีกา ลงนามโดย นรม.กพช. เมื่อ ๑๒ ม.ค.
๒๕๕๒ กำหนดให้มีการแบ่งเขตการปกครอง ดังนี้ แบ่งเป็น ๑ ราชธานี (พนมเปญ) และ ๒๓
จังหวัดได้แก่ กระแจะ เกาะกง กันดาล กัมปงจามกัมปงชนัง กัมปงธม กัมปง สะปือ กัมปอต ตาแก้ว รัตนคีรี พระวิหาร พระตะบอง โพธิสัตบันเตียเมียนเจยไปรเวง มณฑลคีรี สตึงเตรง สวายเรียง เสียมราฐ
อุดรมีชัย ไพลิน แกบ และพระสีหนุ และแต่ละจังหวัดจะมีศูนย์กลางการปกครองเรียกว่า
(อำเภอเมือง)เรียกว่า“กรุง”นอกจากนี้ยังมีเมืองสำคัญที่มีฐานะเป็น “กรุง” อีก ๓ แห่ง คือ กรุงปอยเปต (จ.
บันเตียเมีย) กรุงบาเว็ต (จ. สวายเรียง) และกรุงสวง(จ.กำปงจาม)
ประชากร ๑๔.๔๕ ล้านคน (ปี ๒๕๕๒)
ภาษาราชการ ภาษาเขมร
ศาสนา พุทธเถรวาท (มหานิกาย ร้อยละ ๙๐และธรรมยุตินิกาย)
วันชาติ ๙ พฤศจิกายน ๒๔๙๖
วันสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย ๑๙ ธันวาคม ๒๔๙๓
ธงชาติ/เพลงชาติ เป็นธงที่เคยใช้ก่อนวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๑๓ มีแถบสีน้ำเงิน – แดง –
น้ำเงินตามแนวนอน โดยมีรูปปราสาทนครวัดสามยอดสีขาวอยู่ตรงกลางบนแถบสีแดง
เพลงชาติ เพลงนาคราช (Nokoreach)
ระบอบการปกครอง ประชาธิปไตยแบบรัฐสภาโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญ
กษัตริย์ พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี
(His Majesty Preah Bat Samdech Preah Boromneath Norodom Sihamoni)เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๗
นายกรัฐมนตรี สมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายฮอร์ นัมฮอง (Mr. Hor Namhong)ซึ่งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีด้วยและความร่วมมือระหว่างประเทศ
โครงสร้างการบริหาร ประกอบด้วยกระทรวงหลัก ๒๖ กระทรวง ได้แก่ (๑) สำนักนายกรัฐมนตรี (๒)กลาโหม (๓) มหาดไทย (๔) ประสานงานกับรัฐสภาและการป้องกันการทุจริตประพฤติมิชอบในวงราชการ (๕)
การต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ (๖) เศรษฐกิจและการคลัง (๗) ข่าวสาร (๘)สาธารณสุข
(๙) อุตสาหกรรม เหมืองแร่ และพลังงาน (๑๐)วางแผน (๑๑) พาณิชย์ (๑๒)ศึกษาธิการ เยาวชน และการกีฬา (๑๓) เกษตร ป่าไม้ และการประมง(๑๔) วัฒนธรรมและศิลปากร (๑๕) สิ่งแวดล้อม (๑๖) พัฒนาชนบท (๑๗)แรงงานและการฝึกฝนอาชีพ (๑๘) ไปรษณีย์และโทรคมนาคม (๑๙) ศาสนา(๒๐) กิจการสตรี (๒๑) กิจการสังคมและทหารผ่านศึก (๒๒)โยธาธิการและการขนส่ง (๒๓) ยุติธรรม (๒๔) การท่องเที่ยว (๒๕)พัฒนาผังเมืองและการก่อสร้าง (๒๖) ชลประทาน และอีก ๒ สำนักงานอิสระ (เทียบเท่าทบวง)
ได้แก่ สำนักงานการบินพลเรือนและสำนักงานข้าราชการพลเรือน
พรรคการเมืองที่สำคัญ พรรคประชาชนกัมพูชา (Cambodian People’s Party - CPP) พรรคฟุนซินเปค
(FUNCINPEC หรือ Front Uni National pour un CambodgeIndépendant, Neutre, Pacifique, et Coopératif) พรรคสม รังสี (SamRainsy Party - SRP) พรรคนโรดม รณฤทธิ์ (Norodom Ranariddh)
ภาษา ภาษาเขมรเป็นภาษาราชการ ส่วนภาษาที่ใช้โดยทั่วไป ได้แก่ อังกฤษฝรั่งเศส เวียดนาม จีน และไทย
ศาสนา ศาสนาประจำชาติคือศาสนาพุทธ นิกายเถรวาท (แยกเป็น 2 นิกายย่อย คือธรรมยุตินิกายและมหานิกาย) และศาสนาอื่นๆ อาทิ ศาสนาอิสลามและศาสนาคริสต์
หน่วยเงินตรา เงินเรียล (Riel)อัตราแลกเปลี่ยน๑ เรียล ประมาณ ๐.๐๐๘๓บาท
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)๑๐.๙ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี๒๕๕๒)
รายได้ประชาชาติต่อหัว (GDP per capita)๖๓๕ ดอลลาร์สหรัฐ (ปี๒๕๕๒)
การขยายตัวทางเศรษฐกิจร้อยละ -๑.๕ (ปี ๒๕๕๒)
สินค้านำเข้าสำคัญ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม วัสดุก่อสร้างเครื่องจักร ยานพาหนะ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องดื่ม ผ้าผืนและผลิตภัณฑ์ยาง
สินค้าส่งออกสำคัญ เสื้อผ้า สิ่งทอ รองเท้า ปลา ไม้ยางพารา บุหรี่ ข้าว และข้าวโพด